อนาคตกอล์ฟไทย : นายวารินทร์ พูนศิริวงศ์อดีตนายกสมาคมสนามกอล์ฟไทยร่วมสัมมนาทางวิชาการเรื่องทิศทาง วงการกอล์ฟไทยในอนาคตที่ห้อง322อาคารสุโขทัยมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อวันที่ 12 มี.ค.นี้
นายวารินทร์ พูนศิริวงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟเดอะรอยัลเชียงใหม่กอล์ฟรีสอร์ท และอดีตนายกสมาคมสนามกอล์ฟไทยคนแรก ได้ให้ความเห็นในระหว่างการสัมมนาทางวิชาการ เรื่องทิศทางวงการกอล์ฟไทยในอนาคต ที่จัดโดยสาขาวิชาการบริหารจัดการกอล์ฟคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ห้อง322 อาคารสุโขทัย ว่า ถึงแม้ในปัจจุบันกีฬากอล์ฟจะได้รับความนิยม ในหมู่ประชาชนมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 30ปีที่แล้ว จนมีจำนวนสนามกอล์ฟเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 สนาม แต่ผู้ประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟในประเทศที่เป็นสนามของเอกชนไม่ใช่สนามที่เป็นของทางราชการ หรือรัฐวิสาหกิจกลับได้รับความกระทบกระเทือนเนื่องมาจากนักการเมืองและข้าราชการประจำบาง กลุ่มไม่เข้าใจข้อเท็จจริงว่ากอล์ฟนั้นเป็นกีฬา เมื่อ10ปีที่แล้วประเทศมีปัญหาทางเศรษฐกิจรายได้ ของรัฐบาลเก็บได้น้อยมีข้าราชการของกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตเสนอให้รัฐบาลเก็บ ภาษีสรรพสามิตจากสนามกอล์ฟโดยอ้างว่ากีฬากอล์ฟเป็นเรื่องของความบันเทิงหรือมหรสพไม่ใช่กีฬา พร้อมทั้งให้เหตุผลว่ากีฬากอล์ฟเป็นกีฬาของกลุ่มคนที่มีฐานะร่ำรวยและในปัจจุบันมีการเก็บภาษีโดย กระทรวงสาธารณสุขโดยมีข้ออ้างว่ากิจการสนามกอล์ฟเป็นผู้ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมทำให้ขณะนี้กิจ การสนามกอล์ฟต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 18 ซึ่งถือว่าเป็นการเรียกเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรม
อดีตนายกสมาคมสนามกอล์ฟไทยยังได้เผยด้วยว่าปัจจุบันนี้กิจการสนามกอล์ฟของเอกชน เป็นจำนวนมากมีปัญหาเรื่องหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)นอกจากนั้นทางกระทรวงการคลังและ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีระเบียบที่เข้มงวดไม่ยอมให้ธนาคารพาณิชย์ให้สินเชื่อแก่กิจการสนาม กอล์ฟโดยเด็ดขาดทำให้ผู้ประกอบการต้องหาทางหลีกเลี่ยงยื่นขอสินเชื่อในโครงการอื่นแทน นาย วารินทร์ยังได้กล่าวถึงการทำให้กิจการสนามกอล์ฟไทยมีชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกเช่นเดียว กับสนามกอล์ฟชื่อดังในยุโรปและอเมริกาว่าข้อเท็จจริงก็คือสนามกอล์ฟของยุโรปนั้นตั้งมานานเป็น ร้อยๆปีในขณะที่สนามกอล์ฟไทยมีอายุไม่ถึง 30 ปีทั้งๆที่สภาพสนามกอล์ฟของไทยนั้นดีกว่าและราคาค่า บริการต่ำกว่าสนามในยุโรปหลายเท่า
วันที่ 13/3/2007
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
คำแนะนำในการแสดงความคิดเห็น
เชิญให้ความคิดเห็นได้ครับ
แล้วกรุณา ลงชื่อท่านใต้ข้อความของท่านด้วยนะครับ
แล้วเลือก แสดงความคิดเห็นในฐานะ
เป็นประเภท "ไม่ระบุชื่อ"
ท่านจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้