...

รับว่าความ คดีอาญา คดีแพ่ง คดีปกครอง คดีทั่วไป รับทำบัญชี ทั่วราชอาญาจักร
ติตต่อ เบอร์โทร 0-2513-1833
แฟกซ์ 0-2930-2752
อีเมล์แอดเดรส
sutthirojlaw@hotmail.com

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เผยเหยื่อสาว อดีตปธ.สภาฯหื่น ยังถูกรังควาน

 

Pic_102832

มูลนิธิเพื่อนหญิงวอนสังคมดูแลผู้เสียหาย เพื่อคนทำผิดจะได้เกรงกลัว แฉวันเดียวมีเหยื่อ 3 รายโทรปรึกษา โดยบางคนไม่กล้าเอาเรื่อง ย้ำกระบวนการยุติธรรมต้องเข้าใจ...
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรีมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าววานนี้ (10 ส.ค.) ถึงกรณีข้าราชการหญิงระดับ 5 ถูกอดีตประธานรัฐสภาข่มขืนว่า จากการฟังเรื่องราวของผู้เสียหายต้องบอกว่าผู้ กระทำเป็นนักวางแผนอย่างมากพยายามหาอุบายหาช่องทางก่อเหตุโดยไม่เคารพสิทธิ มนุษยชนของคนอื่นและเป็นนักฉวยโอกาสมาก อีกทั้งหน่วยงานต้นสังกัดก็ขาดความระมัดระวังหัวหน้างานบางคนถึงขนาดใช้คำ พูดว่า “นักการเมืองให้ทำอะไรก็อย่าไปขัด” มูลนิธิพยายามสร้างความเข้าใจเพื่อให้ผู้ เสียหายมาพูดคุยขอรับความช่วยเหลือป้องกันการถูกกระทำซ้ำ โดยเราจะสนับสนุนให้มีการต่อสู้ให้ผู้กระทำผิดถูกลงโทษแม้จะหมดอายุความไป แล้ว แต่คนกระทำผิดยังไม่ตาย เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องรับผิดชอบตนอยากให้ไปดูข่าวย้อนหลัง 10 ปีผู้ที่กระทำต่อผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เคยมีใครยอมรับ ล้วนแต่ปฏิเสธทั้งนั้น
หน.ศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรีมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวต่อว่า ต้องชื่นชมผู้เสียหายรายนี้มาก ที่มาหาเรา เพราะไม่สบายใจมารับการฟื้นฟูจิตใจจนปกติ และเตรียมใจยอมรับในการกลับไปทำงานด้วยความมั่นใจซึ่งเพื่อนร่วมงานสำคัญใน การปกป้องผู้ถูกกระทำ จำกัดสิทธิคนกระทำไม่ว่าเป็นใคร ยศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โตแค่ไหน หากสังคมเข้ามาดูแลผู้เสียหาย จะทำให้ผู้กระทำเกิดความเกรงกลัวว่ามีคนช่วย เหลือ มีคนรู้เห็นการกระทำหากยังทำต่อจะติดคุกแน่ ตาวิเศษมีอยู่ทั่วไป
น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวถึงภาวะจิตใจของผู้เสียหายว่า ล่าสุดบอกสบายใจขึ้นบ้าง กล้าหาญพอที่จะไปทำงาน เข้มแข็งที่จะรักษาสิทธิ แต่อ่านข่าวแล้วไม่สบายใจ อีกทั้งยังบอกตนว่ามีคนบางคนยังพยายามคุกคามอยู่อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่อง อายุความในการดำเนินคดีผู้กระทำผิดองค์กรผู้หญิง และองค์กรวิชาชีพได้ศึกษา ข้อกฎหมายระหว่างประเทศ และเตรียมยกร่างกฎหมายเฉพาะให้ความผิดกรณีคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่ยอมความไม่ได้ อายุความยาว ผู้กระทำได้รับโทษหนัก โดยจะครอบคลุมเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเพศ ด้วยเนื่องจากปัจจุบันมีแค่ กฎหมายคุ้มครองแรงงานของภาคเอกชนปรับ 2 หมื่นบาท ส่วนในภาคราชการและรัฐวิสาหกิจไม่มีกฎหมายโดยตรง
หน.ศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวอีกว่า หลังจากมูลนิธิฯ ได้เปิดเผยข้อมูลฉาวในแวดวงรัฐสภา ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 10 ส.ค.เพียงวันเดียว มีหญิงที่ตกเป็นเหยื่อถูกคุกคามทางเพศโทรศัพท์มาปรึกษาตน ถึง 3 กรณี กรณีแรกเป็นสามีขอคำปรึกษาเรื่องภรรยาถูกรองผู้อำนวยการเขตธนาคารแห่งหนึ่ง คุกคามทางเพศ กรณีที่สอง เป็นพนักงานหญิงรายหนึ่งทำงานอยู่ในบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับสีในจังหวัดที่ ขึ้นต้นด้วย ส.ในภาคกลาง ถูกผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าฉุดเข้าไปจะข่มขืมในห้องน้ำ แต่โชคดีหนีรอดออกมาได้ และเข้าแจ้งความดำเนินคดี แต่กลับถูกผู้บริหารบริษัทดังกล่าวขู่ให้ถอนแจ้งความ
น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวถึงกรณีสุดท้ายว่า เหยื่อเป็นสาว จ.ร้อยเอ็ดเล่นอินเทอร์เน็ต โปรแกรมแชท แคมฟรอกกับชาวต่างชาติ เมื่อพูดคุยกันเสร็จไม่แน่ใจว่าปิดเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างไร หรือเครื่องอาจเกิดอาการรวน ปรากฎว่าถูกชาวต่างชาติคนดังกล่าวบันทึกภาพ ขณะที่ถอนเสื้อผ้าในห้องส่วนตัว และโพสภาพมาบังคับให้โอนเงินเข้าธนาคารจำนวน 800 เหรียญสหรัฐ และข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามที่ว่าจะนำภาพเผยแพร่ในวงกว้าง โดยเรื่องดังกล่าวได้แนะนำให้ไปฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดี เพราะถือเป็นความผิดทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และถือเป็นคดีขู่กรรโชกทรัพย์
หน.ศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามอยากเตือนสติให้ผู้หญิงที่ถูกคุกคามทางเพศว่า ตกใจได้ แต่ต้องตั้งสติให้ได้จากนั้นให้ปรึกษาพ่อแม่ญาติพี่น้อง หรือ เพื่อนที่ไว้ใจ เพื่อแจ้งความดำเนินดคีเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ หรือปรึกษากับมูลนิธิฯ ก็ได้ อย่าอายที่ต้องเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ขณะเดียวกันกลไกในกระบวนการยุติธรรมต้องมีความเข้าใจต่อเรื่องเหล่านี้ อย่าอติ ไม่เชื่อ ที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมยังขาดความตระหนัก และเข้าใจทำให้ผู้เสียหายเกิด ความหวั่นวิตก เกรงกลัวหรือไม่อยากที่จะเข้าสู่กระบวนการ

ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คำแนะนำในการแสดงความคิดเห็น

เชิญให้ความคิดเห็นได้ครับ
แล้วกรุณา ลงชื่อท่านใต้ข้อความของท่านด้วยนะครับ
แล้วเลือก แสดงความคิดเห็นในฐานะ
เป็นประเภท "ไม่ระบุชื่อ"
ท่านจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้