รายงานการประชุมคณะกรรมการสาธารณสุข
ครั้งที่ 54-2/2552
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2552
ณ ห้องประชุมสมบูรณ์ วัชโรทัย
อาคาร 1 ชั้น 2 ตึกกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี
******************************
คณะกรรมการผู้มาประชุม
1. นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา | แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข | ประธานการประชุม |
2. นพ.มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ | อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ | กรรมการ |
3. นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ | แทนอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ | กรรมการ |
4. นางมาลี พงษ์โสภณ | แทนอธิบดีกรมควบคุมโรค | กรรมการ |
5. นายไพโรจน์ แก้วมณี | แทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา | กรรมการ |
6. นางพรทิพย์ จิรศรีสกุล | แทนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น | กรรมการ |
7. นายวินัย ลัฐิกาวิบูลย์ | แทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน | กรรมการ |
8. นายยงยุทธ ทองสุข | แทนอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม | กรรมการ |
9. นางภาวนาฏ บุนนาค | แทนอธิบดีกรมวิชาการเกษตร | กรรมการ |
10. นายสนธิ คชวัฒน์ | แทนเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | กรรมการ |
11. นางอินจิรา นิยมธูร | แทนปลัดกรุงเทพมหานคร | กรรมการ |
12. นายสุคนธ์ เจียสกุล | กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ | กรรมการ |
13. ศ.(พิเศษ)เรวัติ ฉ่ำเฉลิม | กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ | กรรมการ |
14. นายสมชาย ตู้แก้ว | แทนอธิบดีกรมอนามัย | กรรมการและเลขานุการ |
คณะกรรมการผู้ไม่มาประชุมเนื่องจากติดราชการ/ภารกิจ
15. อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง | กรรมการ |
16. นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย | กรรมการ |
17. นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย | กรรมการ |
18. นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย | กรรมการ |
19. ศ.ดร.สุนีย์ มัลลิกะมาลย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ | กรรมการ |
20. ศ.พิชิต สกุลพราหมณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ | กรรมการ |
ผู้เข้าร่วมประชุม
1. นายไพโรจน์ สันตนิรันดร์ | ผอ.กองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กทม. |
2. นายจตุพร สังข์ทอง | นิติกร 4 เทศบาลเมืองบ้านบึง |
3. น.ส.บัวทิพย์ ลิ้มภักดี | เจ้าพนักงานธุรการ เทศบาลเมืองบ้านบึง |
ผู้เข้าร่วมประชุม (ต่อ) | |
4. นางนภพรรณ นันทพงษ์ | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ |
5. น.ส.อังคณา คงกัน | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ |
6. นายโสภณ หมวดทอง | นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ |
7. นายสมศักดิ์ ศิริวนารังสรรค์ | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม |
8. น.ส.ชมพูนุช คงสุขเลิศ | นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ กรมควบคุมมลพิษ |
9. นางสุรางค์ ศรีบุญเรือง | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กองสุขาภิบาลชุมชนฯ |
10. นายสุชาติ สุขเจริญ | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ |
11. นางพรพรรณ ไม้สุพร | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
12. นางสุวรรณา จีรโภคากุล | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
13. นางวิไลวรรณ มาเจริญทรัพย์ | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
14. น.ส.วิภา รุจิจนากุล | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
15. นายสุพจน์ อาลีอุสมาน | นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
16. นายเจนวิทย์ วิทยเดช | นิติกร ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
17. นายศุภชัย เครือเมฆ | พนักงานพิมพ์ดีดชั้น 3 ศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข |
18. นายพรสิทธิ์ ศรีอรทัยกุล | นายกสมาคมสนามกอล์ฟไทย |
19. นายบัณฑูร ชุณหสวัสดิกุล | เลขานุการสมาคมสนามกอล์ฟไทย |
20. นายสมโภชน์ กาญจนาภรณ์ | ผู้ทรงคุณวุฒิ สมาคมสนามกอล์ฟไทย |
21. นางสุนันทา สมบุญธรรม | กรรมการ สมาคมสนามกอล์ฟไทย |
22. นายธนัญ โสรัจจ์ | กรรมการ สมาคมสนามกอล์ฟไทย |
23. นายสมจิต ทองเผือก | ผู้เชี่ยวชาญด้านบำรุงรักษาสภาพแวดล้อม สมาคมสนามกอล์ฟไทย |
เริ่มการประชุมเวลา 13.45 น.
วาระที่ 1 เรื่องประธานแจ้งที่ประชุมทราบ
ประธานการประชุม(นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย)แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขติดราชการสำคัญ จึงได้มอบหมายให้อธิบดีกรมอนามัยทำหน้าที่ประธานการประชุม และอธิบดีกรมอนามัยได้มอบให้ผู้อำนวยการศูนย์บริหารกฎหมายสาธารณสุข(นายสมชาย ตู้แก้ว)ทำหน้าที่เลขานุการการประชุมแทน
มติคณะกรรมการฯ รับทราบ
/วาระที่ 2........
วาระที่ 2 เรื่องรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการสาธารณสุข ครั้งที่ 53-1/2552
แก้ไขหน้าที่ 1 บรรทัดที่ 2 คำว่า “แทนอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ”
แก้ไขเป็น “อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ”
มติคณะกรรมการฯ รับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 53-1/2552
วาระที่ 3 เรื่องสืบเนื่อง
ประธานการประชุมหารือต่อที่ประชุมว่า ขอให้เลื่อนวาระที่ 3.3 ตามระเบียบวาระการประชุมขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับแรกเพื่อให้คณะกรรมการฯได้รับฟังคำชี้แจงและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากสมาคมสนามกอล์ฟไทย ต่อกรณีที่ขอให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
มติคณะกรรมการฯ เห็นชอบตามที่ประธานฯเสนอ
3.1 เรื่องสมาคมสนามกอล์ฟไทยขอให้พิจารณายกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กิจการสนามกอล์ฟเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ความเป็นมา
สืบเนื่องจากสมาคมสนามกอล์ฟไทยได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการสาธารณสุขขอให้พิจารณายกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟเป็นกิจการ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และประธานคณะกรรมการสาธารณสุขได้แจ้งให้ฝ่ายเลขาฯเชิญผู้แทนจากสมาคมสนามกอล์ฟไทยเข้าร่วมชี้แจงในการประชุมคณะกรรมการสาธารณสุขในครั้งนี้ด้วย ซึ่งนายกสมาคมสนามกอล์ฟไทยได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงความจำเป็นที่ขอให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เนื้อหาสรุปได้ดังนี้
1. กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟเป็นกิจการที่ส่งเสริมกีฬาและสุขภาพให้แก่คนทุกเพศทุกวัย เป็นกีฬาที่ได้รับการส่งเสริมและยอมรับจากทั่วโลก
2. กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและนำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก
3. กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟช่วยสร้างอาชีพและก่อให้เกิดการจ้างงาน ไม่น้อยกว่า 100,000 ตำแหน่ง
4. สนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟส่งเสริมสภาพสิ่งแวดล้อมในทางบวกเป็นเหมือนสวนสาธารณะและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์จำนวนมาก
5. สนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย แต่ละแห่งมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชน้อยกว่าการทำการเกษตรอย่างอื่นในอัตราเนื้อที่ที่เท่ากัน มีการเก็บสำรองน้ำไว้ใช้เอง ไม่ได้ใช้น้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะหรือแย่งน้ำจากเกษตรกร
/6. การกำหนด........
6. การกำหนดให้กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีการนำเสนอข่าวไปทั่วโลก ส่งผลกระทบด้านลบต่อภาพลักษณ์ของกิจการ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาใช้บริการ รายได้ของประเทศลดลง
7. หากยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องดังกล่าว จะทำให้ภาพลักษณ์ของการประกอบกิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟดีขึ้น สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ จะมีผลดีมากกว่าผลเสีย ซึ่งการยกเลิกสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาเพราะเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ความเห็นที่ประชุม
คณะกรรมการฯ ได้เสนอความเห็นต่อที่ประชุมในประเด็นนี้อย่างกว้างขวาง พอสรุปได้ดังนี้
1. กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมีที่มาจากกิจการที่น่ารังเกียจตามพรบ.สาธารณสุข พ.ศ.2484 และเมื่อมีการยกร่างพรบ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ”กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ” ซึ่งจากการประชุมพิจารณาทบทวนกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อปี พ.ศ. 2551 คณะกรรมการฯที่เข้าประชุมเห็นพ้องร่วมกันว่า กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ควรเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นเพื่อให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นต้องแก้ไขในตัวกฎหมายซึ่งต้องมีกระบวนการดำเนินงานหลายขั้นตอน ใช้เวลามาก และขณะนี้ยังมีความคืบหน้าไม่มากนัก
2. กิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟเป็นกิจการที่มุ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพแต่ต้องมีการควบคุมกำกับดูแลเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยใช้อำนาจตามมาตรา 32 แห่งพรบ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ประกาศกำหนดประเภทกิจการและหลักเกณฑ์เงื่อนไขควบคุมดูแลกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในท้องถิ่นของตน แต่ข้อเท็จจริงในขณะนี้คือ ท้องถิ่นส่วนใหญ่ยังไม่ได้ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าว
3. เหตุผลในการเสนอให้ยกเลิกการประกอบกิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟออกจากกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพยังมีข้อขัดแย้งทางวิชาการ เนื่องจากผลการศึกษาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพบว่า กิจการสนามกอล์ฟมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเรื่องการใช้น้ำ การใช้สารเคมี การใช้สารกำจัดแมลง ฯลฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อกำหนดให้กิจการสนามกอล์ฟเป็น 1 ใน 17 ประเภทที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอย่างรุนแรง และหากจะยกเลิกการประกอบกิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟออกจากกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพควรพิจารณากิจการประเภทอื่นด้วย เช่น การประกอบกิจการประเภทรำวง รองเง็ง เป็นต้น
4. ลักษณะการประกอบกิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกัน โดยสนามกอล์ฟส่งผลกระทบในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนสนามฝึกซ้อมกอล์ฟส่งผลกระทบทางด้านเหตุรำคาญ จึงเสนอให้พิจารณาแยกกัน
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ศ.พิเศษเรวัติ ฉ่ำเฉลิม) ได้ให้ข้อสังเกตต่อที่ประชุมว่า การใช้กฎหมายจะต้องสนับสนุนการพัฒนาประเทศ หากมีการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมแล้วผู้เสียหายสามารถร้องต่อศาลปกครอง
/ให้ยกเลิก............
ให้ยกเลิกกฎหมายนั้นได้ ซึ่งการใช้กฎหมายเพื่อควบคุมดูแลกิจการใดๆจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสามารถควบคุมการประกอบกิจการนั้นได้จริงหรือไม่ มีความเหมาะสมและมีกฎหมายอื่นที่ควบคุมอยู่แล้วหรือไม่ ซึ่งโดยปกติกีฬากอล์ฟไม่น่าจะเกิดอันตราย เว้นแต่เล่นโดยไม่ถูกวิธี
มติคณะกรรมการฯ
เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการพิจารณาและตัดสินใจของคณะกรรมการสาธารณสุขจึงสมควรให้ตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาผลกระทบต่อสุขภาพจากกิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ โดยมอบหมายให้นายสุคนธ์ เจียสกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานและมีผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้วย มีระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน ให้นำกรอบของการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพมาเป็นแนวทางในการทำงาน และแยกประเด็นการพิจารณากิจการสนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟออกจากกัน
3.2 การออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อกำหนดให้การประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ความเป็นมา
ฝ่ายเลขาฯ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญกรมอนามัยเข้าร่วมพิจารณาแก้ไขปัญหาการให้บริการข้อสัญญาและการปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาของสถานบริการออกกำลังกาย (ฟิตเนส) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552 เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก กรมอนามัยได้รายงานถึงการดำเนินงานในส่วนของกรมอนามัย โดยมีกรอบการดำเนินงานและระยะเวลา ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้รายงานว่าอยู่ระหว่างดำเนินการให้กิจการสถานบริการออกกำลังกายเป็นกิจการที่ต้องควบคุมสัญญา เพื่อมิให้เกิดการหลอกลวงหรือเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมาธิการเห็นว่าการดำเนินงานทั้งในส่วนของกรมอนามัยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร ไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและสำนักอัยการสูงสุดร่วมทำประกาศในเรื่องการดำเนินงานของสถานบริการออกกำลังกายที่มีการทำสัญญากับผู้บริโภคต้องมีเนื้อหา ข้อกำหนดเงื่อนไขอะไรบ้าง รวมถึงข้อมูลจากกรมอนามัยเกี่ยวกับมาตรฐานที่จำเป็นของสถานบริการออกกำลังกายเพื่อแจ้งประชาชนโดยเร็วที่สุด และในวันที่ 2 เมษายน 2552 คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมอนามัยให้พิจารณาดำเนินการ 2 ข้อดังนี้
1) ให้กรมอนามัยในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข 2535 เร่งผลักดันให้มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อกำหนดให้การประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
2) เร่งผลักดันและประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรฐานของสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคโดยส่วนรวม ตลอดจนเพื่อเป็นการกำหนดให้สถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายมีมาตรฐานซึ่งต้องได้รับรองมาตรฐานจากหน่วยงานของรัฐ
/กองออกกำลังกาย..........
กองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย ได้ดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ประจำปี 2552 โดยมีแผนการดำเนินงานดังนี้
1) ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ มาตรฐานสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกาย จำนวน 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1/2552 วันที่ 9 ธันวาคม 2551
- ครั้งที่ 2/2552 วันที่ 19 พฤษภาคม 2552
- ครั้งที่ 3/2552 เดือนสิงหาคม 2552
2) จัดจ้างสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพ อันเกิดจากการให้บริการของสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
3) จัดทำเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ คู่มือเกณฑ์มาตรฐานของสถานประกอบกิจการฯ และเอกสารคู่มือประชาชนในการเลือกใช้บริการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
สำหรับความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการฯ มีดังนี้
1) การประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ มาตรฐานสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกาย ครั้งที่ 2/2552 วันที่ 19 พฤษภาคม 2552 ณ ห้องประชุมกองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ผลการประชุมโดยสังเขป ดังนี้
1.1) อนุกรรมการที่เข้าร่วมประชุม จำนวน 22 คน โดยมีนายแพทย์โสภณ เมฆธน รองอธิบดีกรมอนามัย ซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการ เป็นประธานการประชุม
1.2) ที่ประชุมรับรองข้อแนะนำมาตรฐานสำหรับสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 5 ด้าน ได้แก่ มาตรฐานด้านสถานที่หรือตัวอาคารและห้องออกกำลังกาย มาตรฐานด้านอุปกรณ์และเครื่องมือออกกำลังกาย มาตรฐานด้านสมาชิกและการบริการสมาชิก มาตรฐานด้านบุคลากรผู้ให้บริการ มาตรฐานด้านความปลอดภัยและขั้นตอนในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
1.3) ที่ประชุมมีมติ ให้นำเสนอต่อคณะกรรมการสาธารณสุข เพื่อประกาศให้สถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและให้นำข้อเท็จจริงที่ได้จากการจ้างสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพอันเกิดจากการให้บริการของสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมาประกอบการพิจารณา
1.4) ที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะการสร้างเครือข่ายเพื่อการพัฒนาศักยภาพสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพต่อเนื่องระยะเวลาประมาณ1-2 ปี โดยลักษณะการขับเคลื่อนโครงการเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับพันธมิตรและเครือข่ายสถานประกอบกิจการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อเผยแพร่ข้อแนะนำให้สถานประกอบกิจการนำไปปรับใช้ในการพัฒนาคุณภาพและร่วมกันจัดทำเกณฑ์มาตรฐานที่ได้ประโยชน์ทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการ และหากสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ(ฟิตเนส)จะควบคุมตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้เลือกเฉพาะมาตรฐานที่จำเป็นในประเด็นที่เป็นสาธารณะและมีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง ที่กฎหมายไม่สามารถยกเว้นให้ได้
/1.5) ที่ประชุมมอบหมาย ……..
1.5) ที่ประชุมมอบหมายให้กองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการ พิจารณาคัดเลือกและยกร่างมาตรฐานที่จำเป็นที่จะประกาศเป็นมาตรการด้านกฎหมายพร้อมแนวทาง การติดตามประเมินผลและให้นำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป
2) การจัดจ้างสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพอันเกิดจากการให้บริการของสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย ได้ดำเนินการทำสัญญาจัดจ้างสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพฯ โดยทางมหาวิทยาลัยได้มอบหมายให้อาจารย์สิทธา พงษ์พิบูลย์ และอาจารย์ฉัตรชัย มะสุนสืบ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลโดยสอบถามจากผู้ใช้บริการสถานประกอบกิจการและผู้ประกอบกิจการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จและรายงานผลภายในเดือนสิงหาคม 2552
ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา
เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสาธารณสุขเพื่อทราบ
ความเห็นของที่ประชุม
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ศ.พิเศษเรวัติ ฉ่ำเฉลิม)ได้ให้ข้อสังเกตต่อที่ประชุมในกรณีนี้ว่า ควรพิจารณาให้ชัดเจนว่าการออกกำลังกายเป็นอันตรายหรือไม่ หรือเป็นอันตรายเพราะมีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก เพราะการเล่นกีฬาทุกประเภทย่อมไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพเว้นแต่เล่นไม่ถูกวิธี ฉะนั้น การควบคุมควรอยู่ตรงไหนจึงจะเหมาะสม
มติคณะกรรมการฯ รับทราบการดำเนินงานตามที่เสนอ
3.3 การจัดทำคำแนะนำคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางการควบคุมการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ
ความเป็นมา
ฝ่ายเลขาฯ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า การประชุมคณะกรรมการสาธารณสุข ครั้งที่ 53-1/2552 วันที่ 28 มกราคม 2552 วาระที่ 4.1.1 ข้อหารือของกรุงเทพมหานคร เรื่อง การประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ที่ประชุมมีมติว่าการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญเป็นกิจการ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ 5/2538 เรื่อง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กิจการที่ 3(19) การผลิตน้ำกลั่น น้ำบริโภค และให้อนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์มาตรฐานกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จัดทำร่างคำแนะนำในเรื่องดังกล่าวเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสาธารณสุข นั้น
กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัยได้จัดทำร่างข้อกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตน้ำดื่มโดยตู้หยอดเหรียญเรียบร้อยแล้วและได้นำมาจัดทำร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางการควบคุมการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ โดยแบ่งออกเป็น 7 ประเด็น คือ 1) นิยาม
/2) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับ............
2) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับสถานที่ตั้ง 3) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณลักษณะของตู้น้ำ 4) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับแหล่งน้ำและการปรับปรุงคุณภาพน้ำ 5) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพมาตรฐานน้ำบริโภค 6) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบำรุงรักษาและการทำความสะอาด 7) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบันทึกและการรายงาน
ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา
คณะกรรมการสาธารณสุขจะเห็นชอบกับร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางการควบคุมการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอหรือมีความเห็นเป็นประการอื่นใด
ความเห็นที่ประชุมฯ
คณะกรรมการฯได้เสนอความเห็นในประเด็นนี้อย่างกว้างขวาง พอสรุปเนื้อหาได้ดังนี้
1. ให้แก้ไขเนื้อหาในร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางการควบคุมการประกอบกิจการตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ดังนี้
1) ข้อที่ 2.1 และ 2.2 คำว่า “ควร” ให้เปลี่ยนเป็น “ต้อง”
2) ข้อ 3.3 ให้เปลี่ยนเป็นคำว่า “หัวจ่ายน้ำและส่วนที่สัมผัสน้ำต้องทำจากวัสดุที่ใช้กับอาหารเท่านั้น (Food Grade) และหัวจ่ายน้ำต้องสูงจากพื้นไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
3) ข้อ 4.1 ให้ตัดคำว่า “พอสมควร” ออก
4) ข้อ 6.4 ให้เพิ่มคำว่า “หรือเมื่อพบผลการตรวจผิดปกติเกินมาตรฐาน”
5) คำว่า “หลักเกณฑ์” ที่ปรากฏในร่างคำแนะนำเป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติจริงหรือไม่
ส่วนข้อเสนออื่นๆ เช่น ระยะห่างจากถนน ความสูงของหัวจ่ายน้ำ วิธีการควบคุมคุณภาพน้ำ การบำรุงรักษาและการรักษาความสะอาด การควบคุมไฟฟ้า ฯลฯ ให้ไปกำหนดรายละเอียดในคู่มือการปฏิบัติงานสำหรับผู้ประกอบการ
2. การออกประกาศว่ากิจการใดเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะต้องมีการจัดทำคำแนะนำและคู่มือการปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ (Code of Practice) เพื่อให้ราชการส่วนท้องถิ่นนำไปใช้เป็นแนวทางออกข้อกำหนดกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทั่วไปสำหรับผู้ประกอบกิจการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลสภาพหรือสุขลักษณะ ตามมาตรา 32 (2) ของพรบ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และอาจใช้เป็นข้อกำหนดในการขอต่ออายุใบอนุญาตด้วย โดยมอบให้เป็นหน้าที่ของสำนักวิชาการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการและจะต้องมีการวางแผนว่าจะถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังราชการส่วนท้องถิ่นได้อย่างไรต่อไป
3. การควบคุมคุณภาพน้ำบริโภคมีประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งใช้อำนาจตามพรบ.อาหาร พ.ศ.2522 ควบคุมอยู่แล้ว แต่การควบคุมการประกอบกิจการจะต้องอาศัยอำนาจตามพรบ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วจะต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันจึงจะควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีผลครอบคลุมทั้งประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(ศ.พิเศษเรวัติ ฉ่ำเฉลิม) ได้ให้ข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้วการออกกฎหมายแต่ละฉบับจะเสริมกัน เพราะผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังมีข้อขัดแย้งระหว่างหน่วยงานที่ใช้กฎหมาย อาจเป็นเพราะ
/ไม่เข้าใจ..............
ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมาย จึงควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำความเข้าใจและดำเนินงานไปด้วยกัน
มติคณะกรรมการฯ
ที่ประชุมมีมติรับร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางการควบคุมตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ และมอบหมายให้กองสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย จัดทำคู่มือการปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการด้วย
วาระที่ 4 เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา
เนื่องจากเวลาการประชุมได้ล่วงเลยไปมาก ฝ่ายเลขาฯเสนอต่อที่ประชุมว่า ให้ถอนวาระที่ 4.1 การพิจารณาร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ. ...... ไปในการประชุมคราวต่อไป และให้เลื่อนวาระที่ 4.2 ขึ้นมาพิจารณาแทนวาระที่ 4.1
มติคณะกรรมการฯ เห็นชอบตามที่ฝ่ายเลขาฯ เสนอ
4.1 การแก้ไข/เพิ่มเติมคำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
ความเป็นมา
ฝ่ายเลขาฯได้นำเสนอต่อที่ประชุมว่า หน่วยงานในกรมอนามัยได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติงานภายในหน่วยงาน ส่งผลให้คณะอนุกรรมการเดิมไม่สอดคล้องกับผู้รับผิดชอบที่เปลี่ยนแปลงใหม่ ฝ่ายเลขานุการฯ จึงเห็นควรแก้ไข/เพิ่มเติมคำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 2 คณะ โดยการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะอนุกรรมการให้สอดคล้องเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน ดังนี้
4.1.1 คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดมาตรฐานวิชาการที่ใช้ในการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย และอัตราค่าธรรมเนียมในการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 จำนวนองค์ประกอบเดิม 25 คน จำนวนองค์ประกอบใหม่ 23 คน
4.1.2 คณะอนุกรรมการพิจารณายกร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร จำนวนองค์ประกอบเดิม 28 คน จำนวนองค์ประกอบใหม่ 28 คน
ประเด็นเสนอเพื่อพิจารณา
คณะกรรมการสาธารณสุขจะเห็นชอบตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอหรือมีความเห็นเป็นประการอื่นใด
ความเห็นที่ประชุมฯ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ(นายสุคนธ์ เจียสกุล) เสนอต่อที่ประชุมว่า ควรให้คณะอนุกรรมการและคณะทำงานแต่ละชุดที่ได้รับการแต่งตั้งต้องรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการสาธารณสุขทุกครั้ง
มติคณะกรรมการฯ
เห็นชอบตามที่ฝ่ายเลขาฯเสนอ และให้บรรจุเรื่องการรายงานความก้าวหน้าของคณะอนุกรรมการและคณะทำงานชุดต่างๆ เป็นวาระประจำ
/วาระที่ 5..............
วาระที่ 5 เรื่องเพื่อทราบ
5.1 การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ (แก้ไข/เพิ่มเติม)
ความเป็นมา
ตามมติการประชุมคณะกรรมการสาธารณสุข ครั้งที่ 53-1/2552 เมื่อวันพุธที่ 28 มกราคม 2552 เห็นชอบให้แก้ไข/เพิ่มเติมคำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ จำนวน 9 ฉบับ ดังนี้
1) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 1/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535
2) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 2/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ
3) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 3/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาทบทวนประเภทกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
4) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 4/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเสนอข้อเท็จจริงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อวินิจฉัยอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535
5) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 5/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดมาตรฐานวิชาการที่ใช้ในการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย และอัตราค่าธรรมเนียมในการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535
6) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 6/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์ มาตรฐานกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
7) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 7/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ มาตรฐาน กิจการให้บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
8) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 8/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรการในการควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ฉบับที่..) พ.ศ. ....
9) คำสั่งคณะกรรมการสาธารณสุข ที่ 9/2552 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ มาตรฐานสถานประกอบกิจการด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ฝ่ายเลขานุการได้แจ้งให้สำนัก/กองวิชาการที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการทราบแล้ว
มติคณะกรรมการ รับทราบตามที่ฝ่ายเลขาฯเสนอ
วาระที่ 6 เรื่องอื่นๆ
ไม่มี
ปิดการประชุม เวลา 16.45 น.
นายสุพจน์ อาลีอุสมาน บันทึกรายงานการประชุม
นายสมชาย ตู้แก้ว ตรวจรายงานการประชุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
คำแนะนำในการแสดงความคิดเห็น
เชิญให้ความคิดเห็นได้ครับ
แล้วกรุณา ลงชื่อท่านใต้ข้อความของท่านด้วยนะครับ
แล้วเลือก แสดงความคิดเห็นในฐานะ
เป็นประเภท "ไม่ระบุชื่อ"
ท่านจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้